สนาม: เครือข่าย HC
บทนำ: อัยการจังหวัดทองผาภูมิสรุปสำนวนคดีฆ่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวรส่งศาล สั่งฟ้อง เปรมชัย 6 ข้อหา อสส เห็นพ้อง อัยการภาค 7 ไม่ฟ้อง 3 ข้อหาตามตำรวจแย้ง แต่เพิ่มชดเชยค่าเสียหายเป็น 3 ล้านบาท อีกคดี อัยการคดีทุจริตฯ ภาค 7 ส่งฟ้อง เจ้าสัว ให้สินบนเจ้าพนักงาน ศาลประทับฟ้องนัดสอบปากคำจำเลย 28 พค ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการภาค 7 วันที่ 30 เมย นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 แถลงผลความคืบหน้าการพิจารณาคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 ราย ผู้ต้องหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้านตะวันตก จกาญจนบุรี นางสมศรีกล่าวว่า ได้สั่งฟ้องและสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัยพร้อมพวกทุกข้อหาเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยสั่งฟ้องนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 6 ข้อหา คือ 1ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ 2ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตฯ 3ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตฯ 4ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าฯ 5ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย และ 6ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 รายนั้นสั่งฟ้องนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 7 ข้อหา ซึ่ง 6 ข้อหาเหมือนนายเปรมชัย เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา คือ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งฟ้องนางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 จำนวน 5 ข้อหา และสั่งฟ้องนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 จำนวน 7 ข้อหา เหมือนนายยงค์ ผู้ต้องหาที่ 2 อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า เมื่อส่งสำนวนการสอบสวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบชภ7) พิจารณากรณีสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคน บางข้อหา ต่อมา ผบชภ7 ได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 4 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 3 ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ และผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ และร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองฯ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด (อสส) เพื่อพิจารณาชี้ขาดความเห็นแย้งดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 เมยที่ผ่านมา อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้ชี้ขาดความเห็นแย้งดังกล่าวแล้ว โดยมีคำสั่งเห็นพ้องกับคำสั่งไม่ฟ้องของอธิบดีอัยการภาค 7 ดังนี้ 1ชี้ขาดไม่ฟ้องนายเปรมชัย นายยงค์ นางนที และนายธานี ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ 2ชี้ขาดไม่ฟ้องนายเปรมชัย นายยงค์ นางนที ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่า (กระรอก) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3ชี้ขาดไม่ฟ้องนางนที ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขณะที่นางนทีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 เมย นายเปรมชัยได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการภาค 7 ขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานที่อยู่ของนายเปรมชัยในช่วงวันเวลาเกิดเหตุ พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย และขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 3 คน รวมทั้งให้สอบสวนบุคคลภายนอกและนายวิเชียร ชิณวงษ์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เอกสารที่นายเปรมชัยส่งมาประกอบคำร้องขอความเป็นธรรม ทั้งการขอให้สอบพยานบุคคลเพิ่มเติมนั้น คณะทำงานและอธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณาแล้วเห็นว่า พยานที่อ้างถึงมิใช่พยานที่เกี่ยวข้องในคดี เป็นเพียงผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนพยานที่เกี่ยวข้องตามประเด็นที่นายเปรมชัยร้องขอความเป็นธรรม ได้มีการสอบสวนพยานดังกล่าวไว้แล้ว คำร้องขอความเป็นธรรมของนายเปรมชัยจึงมีลักษณะเป็นการประวิงคดี ทั้งข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนได้ความครบถ้วนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่นายเปรมชัยร้องขอความเป็นธรรมและจะยื่น พร้อมทั้งให้นายเปรมชัยพร้อมพวกชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 3,012,000 บาท อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้อัยการภาค 7 พิจารณาให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวน 462,000 บาทแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จกาญจนบุรี นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการจังหวัดทองผาภูมิ พร้อมด้วยนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ได้นำสำนวนข้อกล่าวหาคดีนายเปรมชัยพร้อมพวกเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ส่งเจ้าหน้าที่ศาลที่ห้องรับคดี ใช้เวลาเพียง 10 นาทีจึงเสร็จเรียบร้อย นายพนมฤทธิ์กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เชื่อว่าศาลจะพิจารณาคดีในเร็ววัน โดยในวันที่ 2 พคนี้นายเปรมชัยและพวกรวม 4 คนต้องมารายงานตัวต่อศาล ศาลจะสอบถามในเรื่องคดีว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ จากนั้นก็เข้าสู่การพิจารณาต่อไป ส่วนเรื่องคดีอัยการสั่งฟ้องไปรวม 6 ข้อหาตามที่ทราบกันแล้ว ด้าน พลตอจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบตร) กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดเห็นพ้องกับอัยการภาค 7 สั่งฟ้องนายเปรมชัยกับพวก 6 ข้อหา ไม่ฟ้อง 3 ข้อหาที่ ผบชภ7 มีความเห็นแย้ง เหตุเพราะเป็นโทษทางปกครอง ส่วนโทษอาญาไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ก็เป็นดุลพินิจของอัยการสูงสุดที่จะสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจมีการรวบรวมพยานหลักฐานเต็มที่อยู่แล้ว ที่สำนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ 1 ภาค 7 วันเดียวกัน นายอภิชาติ ต่อดำรงค์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7, นายบุญธรรม วิริยะประสิทธิ์ รองอธิบดีอัยการ รักษาราชการแทนอธิบดี สำนักงานคดีปราบปรามทุจริตภาค 7, นายอภิชนษ์ รากบัว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการพิเศษคดีปราบปรามทุจริต 1 ภาค 7 แถลงคดีนายเปรมชัยกับพวก คดีร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน โดยระบุมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องนายเปรมชัยกับพวกในข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงาน นายอภิชนษ์กล่าวว่า ได้พาตัวนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 มาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ในความผิดฐานร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114, 83 ที่บัลลังก์ 1 โดยมีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิจารณาคดี มีคำสั่งให้ประทับฟ้องจำเลยทั้งสองไว้พิจารณา ก่อนเริ่มพิพากษาศาลได้สอบถามจำเลยทั้งสองว่ามีทนายความหรือไม่ จำเลยทั้งสองแถลงว่ายังไม่มีทนายความ และประสงค์จะแต่งตั้งทนายความต่อสู้คดีเอง จึงขอเลื่อนคดีไปก่อน ศาลสอบโจทก์แล้ว โจทก์ไม่แถลงค้าน จึงเลื่อนนัดสอบปากคำให้การทั้งสองอีกครั้งในวันที่ 28 พค61 อัยการผู้เชี่ยวชาญระบุ...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-04-14